โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ
โพสเมื่อ :2009-06-03 11:55:02
โอเมก้า 3,Omega 3,DHA,ปลา,โทษของปลา
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ
เกี่ยว
กับเรื่องนี้ รศ.พญ.ปรียานุช แย้มวงศ์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ บอกว่า
น้ำมันปลาเริ่มเป็นที่สนใจมาประมาณ 30 ปี เมื่อมีข้อมูลว่าชาวเอสกิโม
ที่บริโภคปลาในปริมาณสูง จะมีปัญหาเส้นเลือดอุดตันน้อย
ระดับไขมันในเลือดต่ำ
และการเกาะตัวของเกล็ดเลือดน้อยกว่าชาวเดนมาร์กซึ่งกิน เนื้อสัตว์มากกว่า
นอกจากนี้ ยังพบว่าชาวญี่ปุ่นในหมู่บ้านชาวประมง ที่บริโภคปลาในปริมาณมาก
จะมีโรคหลอดเลือดหัวใจ
การเกาะตัวของเกล็ดเลือดและความหนืดของเลือดน้อยกว่าชาวญี่ปุ่นในหมู่บ้าน
เลี้ยงสัตว์
กลุ่มกรดไขมันที่เรียกว่า โอเมก้า 3 คือ ไขมัน
ไม่อิ่มตัวชนิดหนึ่ง พบมากในปลาทะเลน้ำลึก เป็นไขมันจำเป็น
ต้องได้รับจากอาหารเนื่องจากร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้สารอาหารที่สำคัญมี
2 ชนิด คือ อีพีเอ และ ดีเอชเอ ปลาทะเลน้ำลึก ที่ให้สารอาหารโอเมก้า 3
ได้แก่ ปลาซาร์ดีน ปลาเฮอร์ริ่ง ปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน และปลาทูน่า
ปลาในอ่าวไทย ที่มีปริมาณโอเมก้า 3 สูง ได้แก่ ปลาทู และที่มีในปริมาณน้อย
ถึงปานกลาง ได้แก่ ปลาอีกา ปลากะพง ปลาตาเดียว ส่วน ปลาน้ำจืดบางชนิด เช่น
ปลาช่อน ปลานวลจันทร์ จะพอมีโอเมก้า 3 บ้าง ซึ่งมากกว่าปลาน้ำจืดอื่น ๆ
สำหรับความสำคัญของโอเมก้า 3 ในเด็ก กรด
DHA มีความสำคัญต่อการเจริญพัฒนาสมองและดวงตาของเด็กทารก โดยเฉพาะในช่วง 3
เดือนก่อนคลอด การขาดของ DHA จะมีความสัมพันธ์กับโรคสมาธิสั้น
โดยเด็กที่มีระดับ DHA ต่ำจะมีปัญหาด้านพฤติกรรม อารมณ์
การนอนและการเรียนรู้มากกว่าเด็กกลุ่มที่มีระดับ DHA ปกติ และเมื่อได้รับ
DHA เสริม อาการต่าง ๆ จะดีขึ้น
ส่วนความสำคัญของโอเมก้า 3 ในผู้ใหญ่และคนสูงอายุ จะ
ช่วยลดระดับไตรกลี เซอไรด์ในเลือด
และเพิ่มระดับไขมันชนิดดีซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดได้
ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ยากขึ้น
ช่วยลดความดันโลหิตได้เล็กน้อย ลดอุบัติการของโรคหลอดเลือดหัวใจ
จากการลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ป้องกันโรคความจำเสื่อม
ชะลอหรือป้องกันการเจริญของเซลล์มะเร็ง
นอกจากโอเมก้า 3
แล้ว ปลายังเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี ย่อยง่าย และในปลาทะเลยังมีไอโอดีน
ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาเรื่องคอพอก
และช่วยการเจริญพัฒนาของสมองเด็กในช่วงปีแรกด้วย
ข้อควรระวังในการกินโอเมก้า 3 เนื่อง
จากน้ำมันปลาลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด
ดังนั้นการกินปลาในปริมาณมากต่อเนื่องกัน
หรือกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา
จะทำให้มีปัญหาเรื่องเลือดออกหยุดยากโดยเฉพาะหากกินร่วมกับยาต้านเกล็ดเลือด
เช่น แอสไพรินหรือโคลพิโดเกรล
หากกินปลาทะเลมากกว่า
8 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากจะมีปัญหาเรื่องเลือดหยุดยากแล้ว
ยังจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานลดลงด้วย
สิ่งที่ควรระวังอีกอย่างในการบริโภคปลาทะเลปริมาณมาก คือ
การปนเปื้อนโลหะหนัก โดยเฉพาะสารปรอท ดังนั้นหากบริโภคมากเกินไป
จะเกิดการสะสมและเป็นพิษได้.